คณะพยาบาลศาสตร์
 
 
  การวิจัย

การสวนปัสสาวะ ครั้งที่ 1

         ภาควิชาการพยาบาลรากฐาน ได้จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความก้าวหน้า ในการจัดการเรียนการสอน วิชาทักษะพื้นฐานทางการพยาบาล ในหัวข้อ “การสวนปัสสาวะ ครั้งที่ 1” เมื่อวันอังคารที่ 9 สิงหาคม 2554 เวลา 12.00-13.30 น. ณ ห้อง 801/1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมี รศ.ฉวีวรรณ โพธิ์ศรี เป็นผู้นำกิจกรรม สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน เกี่ยวกับการสวนปัสสาวะ ทั้งแบบสวนทิ้งและสวนคา ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้

         อ.อัจฉรา มาศมาลัย กล่าวว่า ใน ward สูติศาสตร์ การสวนปัสสาวะก่อนคลอดค่อนข้างสวนยาก เพราะมีหัวเด็กมาตุงอยู่ ทำให้สอดสายเข้าไปตรงๆ ไม่ได้ ต้องสอดขึ้นก่อน แล้วค่อยลง โดยใช้ catheter ที่เป็นสายยางแดงใส่เข้าไป และหลังคลอดบางทีฝีเย็บจะบวม ทำให้หาช่องใส่สายสวนปัสสาวะไม่เจอ นักศึกษาจะใส่ผิดเข้าช่องคลอดอยู่บ่อยๆ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาก็คือ ให้สังเกตช่องคลอดก่อน เพราะเห็นได้ชัดเจนกว่า แล้วช่องสวนปัสสาวะก็จะอยู่บนช่องคลอด และปัจจุบันไม่นิยมการโกนขนบริเวณ perineum แล้ว

   

         ปัจจุบันนี้จะไม่ใส่สายยางแดงไว้ใน Set สวนปัสสาวะที่ปลอดเชื้อ จะแยกสายยางแดงปลอดเชื้อไว้นอก set สำหรับการ Flushing ทั่วๆไปจะใช้น้ำเปล่า แต่หากเป็นการสวนปัสสาวะ เมื่อเปิด set แล้ว จะใช้ sterile water ในการ Flushing ก่อนสวน และผ้าสี่เหลี่ยมเจาะกลางของโรงพยาบาลจะเป็นผ้าผืนใหญ่คลุมเข่า ทำให้มีบริเวณปลอดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการดีทำให้มือของนักศึกษาไม่ contaminate

         รศ.ฉวีวรรณ โพธิ์ศรี กล่าวว่า กรณีที่สายสวนปัสสาวะ Contaminate เราจะไม่เปลี่ยน set ใหม่ แต่จะเปลี่ยนเฉพาะสายสวนปัสสาวะเท่านั้น และเวลาที่สวนปัสสาวะผู้ป่วย ควรมีคนช่วยนักศึกษาเนื่องจากนักศึกษาบางคนได้ผ่านการฝึกในห้องปฏิบัติการพยาบาล เวลาปฏิบัติจริงอาจไม่มั่นใจนัก ต้องการกำลังใจมาก และต้องใช้มือแหวกค้างไว้ตลอดเวลาจนกว่าจะสวนปัสสาวะเสร็จ

         อ.อัจฉรา มาศมาลัย กล่าวว่า หญิงหลังคลอดมี lochia มาก ทางสูติฯ ใช้ถุงมือในการ flushing ไม่ได้ใช้ forceps แล้ว และใช้น้ำเปล่าในการ flushing  เมื่อเปิด set สวน แล้ว flushing ด้วย sterile water อีกครั้ง โดยใส่ถุงมือ sterile ในการ flushing 

         รศ.ฉวีวรรณ โพธิ์ศรี ถามใน 2 ประเด็นคือ ประเด็นที่ 1 กรณี flushing ที่เทน้ำเปล่าลงในซองสำลี จะมีวิธีการหยิบสำลีอย่างไรจึงจะดีที่สุด ประเด็นที่ 2 กรณีเมื่อเปิด set สวน แล้วใส่ถุงมือ sterile แทนการใช้ forcepsในการ flushing โดยขอความเห็นจากที่ประชุมว่า จะเปลี่ยนถุงมือคู่ใหม่หรือใช้ถุงมือคู่เดิมหยิบสาย catheter และถ้าเปลี่ยนถุงมือคู่ใหม่จะแหวก labia ค้างไว้จนใส่ catheter ได้อย่างไร หรือมีวิธีการทำอย่างไร

         ประเด็นที่ 1 หลายท่านมีความเห็นว่า ใช้มือซ้ายหยิบสำลีที่อยู่ในซองให้มือขวา แล้วใช้มือขวา Flushing โดยไม่ใช้มือขวาหยิบสำลีในซอง

         ประเด็นที่ 2 หลายท่านมีความเห็นว่า ควรเปลี่ยนถุงมือปลอดเชื้อคู่ใหม่ ใช้สำลีแหวก labia ค้างไว้ตรงตำแหน่ง urethra แล้วเปลี่ยนถุงมือคู่ใหม่ เวลาจับสายสวนปัสสาวะก็จะไม่จับตรงปลายพอดี จะจับห่างปลายสายออกไปประมาณ 3 นิ้ว รศ.ลิวรรณ อุนนาภิรักษ์ ให้ข้อเสนอว่า กรณีใส่ Foley catheter พอใส่สายจนเห็นน้ำปัสสาวะออกมาแล้ว ควรใส่ลึกเข้าไปอีก 1 นิ้ว มิฉะนั้นเวลาใส่น้ำเข้าไป balloon จะเข้าไปคาอยู่ตรงท่อปัสสาวะได้

         ท้ายกิจกรรม รศ.ฉวีวรรณ โพธิ์ศรี ได้สรุปว่าการสวนปัสสาวะนั้น เราจะยังคงใช้ sterile water ในการ Flushing ก่อนสวนปัสสาวะอยู่ โดยใน ward จะใช้ถุงมือ หรือ forceps ในการ Flushing สำหรับการใช้ถุงมือ Flushing นั้น จะใช้ถุงมือ 2 คู่ โดยถุงมือคู่แรกใช้ Flushing และใช้สำลีแหวก labia ค้างไว้ แล้วทำการเปลี่ยนถุงมือคู่ที่สอง แล้วจึงสวน catheter

นางสาวชวนันทร์ พรหมโชติสำหรับกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ คงทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับความรู้และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการสวนปัสสาวะที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในวิชาทักษะพื้นฐานทางการพยาบาลต่อไป

 

 

อาจารย์ ดร.วรวรรณ วาณิชย์เจริญชัย
นางสาวชวนันทร์ พรหมโชติ    
ผู้จดบันทึก           

รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม

  1. รศ.ฉวีวรรณ      โพธิ์ศรี           ประธาน
  2. ผศ.ณัฐสุรางค์   บุญจันทร์
  3. รศ.ถนอมขวัญ    ทวีบูรณ์
  4. รศ.พัสมณฑ์      คุ้มทวีพร
  5. รศ.ลิวรรณ        อุนนาภิรักษ์ 
  6. รศ.วัฒนา         พันธุ์ศักดิ์  
  7. ผศ.วิราพรรณ    วิโรจน์รัตน์ 
  8. อ.อัจฉรา         มาศมาลัย
  9. อ.วรวรรณ        วาณิชย์เจริญชัย 
  10. น.ส.ชวนันทร์     พรหมโชติ 

 

 
หน้าหลัก