ชื่อหลักสูตร
ภาษาไทย: | หลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ |
ภาษาอังกฤษ: | Training Program of Nursing Specialty in Breastfeeding |
ชื่อประกาศนียบัตร
ภาษาไทย: | ประกาศนียบัตรการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ |
ภาษาอังกฤษ: | Certificate of Nursing Specialty in Breastfeeding |
หน่วยงานที่รับผิดชอบ
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
หลักการและเหตุผล
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นวิธีการสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพของประชากรของประเทศตั้งแต่แรกเกิด เพราะนมแม่มิใช่เป็นเพียงสารอาหาร แต่เด็กที่ได้รับน้ำนมแม่อย่างเหมาะสมจะมีภูมิต้านทานโรคที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ทำให้มีสุขภาพดี ไม่ป่วยบ่อย และลดโอกาสในการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน และเบาหวานเมื่อเด็กโตขึ้นได้ นอกจากนั้นยังช่วยส่งเสริมความผูกพันใกล้ชิดระหว่างแม่ลูก เป็นการวางรากฐานของสติปัญญาความฉลาดทางอารมณ์ และสุขภาพจิตที่ดีของลูก องค์การอนามัยโลกจึงแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิด – ๖ เดือน และให้นมแม่ต่อไปควบคู่กับอาหารตามวัยจนถึง ๒ ปี หรือนานกว่านั้น ปัจจุบันอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังคงมีอัตราที่ต่ำในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย จากการสำรวจสถานการณ์เด็กขององค์การเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟในปี พ.ศ.๒๕๕๙ พบว่าทารกช่วงอายุ ๐ – ๕ เดือนในประเทศไทย กินนมแม่เพียงอย่างเดียวร้อยละ ๒๓.๑ และจากการสำรวจของยูนิเซฟในปี พ.ศ.๒๕๕๗ พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในช่วงอายุดังกล่าวของโลกอยู่ที่ร้อยละ ๓๘ จะเห็นได้ว่าอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว (Exclusive Breastfeeding) ในระดับโลกและของประเทศไทยมีอัตราที่ตํ่า และห่างจากเป้าหมายที่องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟตั้งไว้ที่ร้อยละ ๕๐ ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การเปลี่ยนแปลงของสังคมและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้หญิงต้องออกไปทำงานมากขึ้น รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของตลาดนมผงสำหรับเลี้ยงทารกและเด็กเล็กซึ่งมีการแข่งขันสูงในภูมิภาคนี้ ทำให้แม่ตัดสินใจหยุดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เร็วขึ้น หรือตัดสินใจไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างจริงจังในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด ระยะหลังคลอด จนกลับไปอยู่ที่บ้าน เพื่อช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่ประสบความสำเร็จ
พยาบาลเป็นบุคลากรสำคัญในการสนับสนุนมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การศึกษาวิจัยพบว่าการ สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยบุคลากรสุขภาพในโรงพยาบาล โดยช่วยให้มารดาที่มีบุตรคนแรกสามารถให้นมลูกได้ก่อนจำหน่ายจากโรงพยาบาล สามารถเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ถึงร้อยละ ๗๖ และจากรายงานการศึกษาการรับรู้การรณรงค์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่และการโฆษณานมผงกับความรู้ทัศนคติ และการตัดสินใจเลือกนมในการเลี้ยงลูกของแม่และญาติโดย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.๒๕๕๖ พบว่าพยาบาลเป็นบุคลากรสำคัญในการ ส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครอง และช่วยเหลือแม่ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ประสบความสำเร็จ การที่พยาบาลจะดำเนินการดังกล่าวได้ จำเป็นต้องมีความรู้และทักษะในการให้ความช่วยเหลือที่ถูกต้อง ปัจจุบันองค์ความรู้และเทคโนโลยีในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางด้านสุขภาพของประเทศในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น การจัดทำหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการพัฒนาศักยภาพของพยาบาล ให้สามารถทำหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนและคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งในภาวะปกติและเจ็บป่วย โดยบูรณาการผลงานวิจัย หลักฐานเชิงประจักษ์และนวัตกรรมในการดูแลช่วยเหลือมารดาที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
วัตถุประสงค์ทั่วไป
ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ นโยบายและระบบบริการสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แนวคิดและบทบาทของพยาบาลในการส่งเสริม สนับสนุนและคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ภาวะโภชนาการเด็กในระยะ ๒ ปีแรก วางแผนและปฏิบัติการพยาบาลแบบองค์รวมแก่สตรีตั้งครรภ์ มารดา เด็กและครอบครัว มีทักษะในการให้การปรึกษาและแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในภาวะปกติ ผิดปกติและเจ็บป่วย
วัตถุประสงค์เฉพาะ
ภายหลังสำเร็จการศึกษาอบรม ผู้เข้ารับการอบรมสามารถ
๑) อธิบายนโยบาย แนวคิดของระบบบริการสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์ มารดาและบุตรได้ ๒) อธิบายแนวคิดและบทบาทของพยาบาลในการส่งเสริม สนับสนุนและคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทั้งในภาวะปกติ ผิดปกติ และเจ็บป่วยได้ ๓) วิเคราะห์ปัญหา วางแผนและปฏิบัติการพยาบาลแบบองค์รวมในการส่งเสริม สนับสนุนและคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งในภาวะปกติ ผิดปกติ และเจ็บป่วยได้ ๔) ให้การปรึกษาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และส่งเสริมภาวะโภชนาการเด็กในระยะ ๒ ปีแรกได้ ๕) ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งในภาวะปกติ ผิดปกติ และเจ็บป่วยได้
สมรรถนะของผู้ผ่านการอบรมการพยาบาลเฉพาะทาง สาขาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
สมรรถนะการปฏิบัติการพยาบาลเฉพาะทางด้านคลินิก
๑) มีความรู้ความสามารถให้การพยาบาลแก่สตรีตั้งครรภ์ มารดา เด็ก และครอบครัว ในด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทั้งในภาวะปกติ ภาวะป่วย ภาวะที่มีปัญหาซับซ้อน และส่งต่อได้อย่างเหมาะสม ๒) มีความรู้ความสามารถในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในระดับบุคคล ครอบครัว องค์กร และชุมชนได้ ๓) มีความสามารถในการพัฒนาคุณภาพการพยาบาลด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยใช?หลักฐานเชิงประจักษ? (Evidence-Based Practice) ๔) มีความสามารถในการจัดการข?อมูลสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์ มารดา และเด็ก เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในคลินิก องค์กร และชุมชนได้อย่างเหมาะสม ๕) มีทักษะในการสื่อสารและให้คำปรึกษา เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างเหมาะสม สมรรถนะของการพยาบาลเฉพาะทางการจัดการทางการพยาบาล
๑) มีความรู้ความสามารถทางการจัดการทางการพยาบาล เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๒) มีภาวะผู้นํา ในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๓) สามารถจัดการคุณภาพการพยาบาลในด้านเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และสร้างนวัตกรรมการจัดการกระบวนการดูแล ส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ๔) สามารถจัดการประเด็นปัญหาด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้
โครงสร้างหลักสูตร
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร | ๑๕ | หน่วยกิต |
โครงสร้างหลักสูตรมีดังนี้ | ||
ภาคทฤษฎี ๔ รายวิชา | ๑๐ | หน่วยกิต |
(๑ หน่วยกิต = ๑๕ ชั่วโมง) | ||
ภาคปฏิบัติ ๒ รายวิชา | ๕ | หน่วยกิต |
(๑ หน่วยกิต = ๖๐ ชั่วโมง) |
ภาคทฤษฎี
จำนวน ๑๐ หน่วยกิต ๔ รายวิชา
วิชาแกน | ||
จำนวน ๒ หน่วยกิต (๑ รายวิชา) | ||
พยคร ๖๒๗ | วิชานโยบายสุขภาพกับภาวะผู้นำ | ๒ (๒-๐-๔) |
NSID 627 | Health Policy and Leadership |
วิชาความรู้ความชำนาญเฉพาะสาขา | ||
จำนวน ๘ หน่วยกิต (๓ รายวิชา) | ||
พยคร ๕๐๑ | การประเมินภาวะสุขภาพขั้นสูงและการตัดสินใจทางคลินิก | ๒ (๑-๒-๓) |
NSID 501 | Health Assessment and Clinical judgment | |
พยคร ๕๐๒ | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๑ | ๓ (๓-๐-๖) |
NSID 502 | Breastfeeding I | |
พยคร ๕๐๓ | การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๒ | ๓ (๓-๐-๖) |
NSID 503 | Breastfeeding II |
ภาคปฏิบัติ
จำนวน ๕ หน่วยกิต ๒ รายวิชา
พยคร ๕๙๓ | ปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๑ | ๒ (๐-๘-๒) |
NDID 593 | Breastfeeding Practicum I | |
พยคร ๕๙๔ | ปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๒ | ๓ (๐-๑๒-๓) |
NSID 594 | Breastfeeding Practicum II |
รายละเอียดรายวิชา
พยคร ๖๒๗ NSID 627 |
นโยบายสุขภาพกับภาวะผู้นำ Health Policy and Leadership |
๒ (๒-๐-๔) หน่วยกิต |
คำอธิบายรายวิชา
นโยบายสุขภาพ ปัญหาและแผนพัฒนากำลังคนทางการพยาบาล กฎหมาย ข้อกำหนด และประเด็นจริยธรรมในระบบสุขภาพ เศรษฐศาสตร์สุขภาพและค่าใช้จ่ายทางสุขภาพ การพัฒนาคุณภาพในระบบสุขภาพ ทฤษฎีและการพัฒนาสมรรถนะผู้นำ
พยคร ๕๐๑ NSID 501 |
การประเมินภาวะสุขภาพขั้นสูงและการตัดสินทางคลินิก Health Assessment and Clinical Judgment |
๒ (๑-๒-๓) หน่วยกิต |
คำอธิบายรายวิชา
แนวคิด หลักการ และวิธีการประเมินภาวะสุขภาพ การซักประวัติ การตรวจร่างกายตามระบบ การประเมินภาวะจิตใจ สังคม และครอบครัว การวิเคราะห์วินิจฉัยและรายงานการประเมินภาวะสุขภาพ ความผิดปกติจากการประเมินสุขภาพแบบองค์รวมของสตรีระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด ระยะให้นมบุตร และทารก
พยคร ๕๐๒ NSID 502 |
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๑ Breastfeeding I |
๓ (๓-๐-๖) หน่วยกิต |
คำอธิบายรายวิชา
แนวคิดเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หลักการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กายวิภาคของเต้านม กลไกการสร้างและหลั่งน้ำนม ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ องค์ประกอบของน้ำนมแม่ ความแตกต่างของนมแม่กับนมผสม การเตรียมตัวเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระยะตั้งครรภ์ การสนับสนุนมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระยะคลอด ระยะหลังคลอด และระยะให้นมบุตร ท่าในการอุ้มลูกดูดนมแม่ การดูดนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ ยาและสารที่ขับออกทางน้ำนมแม่ ปัญหาที่พบบ่อยในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ วิธีการป้องกันและแก้ไขโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ การวางแผนจำหน่ายมารดาและทารก
พยคร ๕๐๓ NSID 503 |
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๒ Breastfeeding II |
๓ (๓-๐-๖) หน่วยกิต |
คำอธิบายรายวิชา
แนวคิดและหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับการดูแลมารดาที่มีปัญหาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในระยะให้นมลูก ปัญหาการให้นมแม่ในทารกและเด็กเล็กที่เจ็บป่วย การวิเคราะห์ปัญหา การวินิจฉัยการวางแผนการพยาบาลแบบองค์รวมแก่มารดาทารกและครอบครัว ในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งในภาวะปกติและเจ็บป่วยของแม่และ/หรือลูกได้
พยคร ๕๙๓ NSID 593 |
ปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๑ Breastfeeding Practicum I |
๒ (๐-๘-๒) หน่วยกิต |
คำอธิบายรายวิชา
ฝึกปฏิบัติการใช้กระบวนการพยาบาลและหลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติพยาบาลและส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แบบองค์รวม แก่สตรีในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด ระยะหลังคลอดและทารกแรกเกิดในภาวะปกติ ค้นหาปัญหาที่พบบ่อยในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การป้องกันและการดูแลช่วยเหลือ
พยคร ๕๙๔ NSID 594 |
ปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ๒ Breastfeeding Practicum II |
๓ (๐-๑๒-๓) หน่วยกิต |
คำอธิบายรายวิชา
ฝึกปฏิบัติการพยาบาลโดยใช้กระบวนการพยาบาลและหลักฐานเชิงประจักษ์ในการพยาบาลแบบองค์รวม เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะคลอด ระยะหลังคลอด หรือระยะให้นมบุตร หรือทารกและเด็กเล็กที่มีปัญหาการเจ็บป่วยหรือได้รับสารอาหารไม่เหมาะสม
ระบบการศึกษา
ระบบทวิภาค
ระยะเวลาการฝึกอบรม
๑๖ สัปดาห์
( / ) เรียนเต็มเวลา
( ) เรียนเป็นโมดูล (Module)
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม
คุณสมบัติทั่วไป
๑) เป็นผู้มีความประพฤติดี ประวัติการทำงานดี มีความรับผิดชอบ
๒) ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
๓) มีใบรับรองจากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น และได้รับการอนุมัติให้ลาศึกษาต่อจากผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานเต็มเวลา
คุณสมบัติเฉพาะ
๑) เป็นพยาบาลวิชาชีพที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลชั้นหนึ่ง หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่งที่ไม่หมดอายุ จากสภาการพยาบาล
๒) เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ปฏิบัติงานด้านการพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี
๓) ผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์การพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก*หมายเหตุ: กรณีอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือก
เกณฑ์การประเมินผลและการสำเร็จการศึกษา
การประเมิน ในรายวิชาภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
๑) ภาคทฤษฎี ประเมินผลจาก - การมีส่วนร่วมในการอภิปราย/สัมมนา - การนำสัมมนา - รายงานสัมมนา - การนำเสนอรายงานการศึกษาด้วยตนเอง - การสอบข้อเขียน - การสอบภาคปฏิบัติในห้องปฏิบัติการ (LRC) ๒) ภาคปฏิบัติ ประเมินผลจาก - การฝึกปฏิบัติการพยาบาล - รายงานการศึกษารายกรณี - การนำเสนอการศึกษารายกรณี - รายงานนวัตกรรมหรือโครงการและการนำเสนอ - การมีส่วนร่วมในการอภิปราย การสำเร็จการศึกษา
ในการสำเร็จการศึกษาอบรม ผู้เข้าอบรมจะต้องมีระยะเวลาในการศึกษาอบรมไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๙๐ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยมีระยะเวลาของการฝึกปฏิบัติไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ ชั่วโมง และต้องผ่านการประเมินผลการเรียนด้วยเกรดเฉลี่ย (GPA) ในทุกวิชาไม่ต่ำกว่า ๒.๐๐ และคะแนนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า ๒.๕๐
Copyright © 2022 -Faculty of Nursing, Mahidol University. All rights reserved. Webmaster: nswww@mahidol.ac.th