Share & Learn: รูปแบบการจัดการเรียนการสอนทางคลินิก
อาจารย์ ดร.ศรินรัตน์ ศรีประสงค์ วิทยากร
อาจารย์ปิโยรส เกษตรกาลาม์ ผู้ลิขิต
สิ่งที่ต้องสอนในคลินิก What am I teaching? สอนอะไรบ้าง
สิ่งที่ต้องสอนในคลินิก แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ
1. Cognitive - Analysing การวิเคราะห์ข้อมูล
- Synthesizing การสังเคราะห์ข้อมูล
- Evaluating การประเมิน
2. Affective - Feedback การให้ข้อมูลย้อนกลับ
- Empathy ความเอาใจใส่
- Expectation ความคาดหวัง
- Listening การฟัง
3. Psychomotor- Gestures ท่าทาง
- Health สุขภาพ
สิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อสอนในคลินิก ได้แก่ บริบทของสถานที่ เนื้อหา นักเรียน ผู้สอน รูปแบบ/ท่าทางการสอน
Who am I teaching? สอนใคร
ต้องมีการประเมินก่อนว่าผู้เรียนเป็นใคร มีความรู้พื้นฐานมากน้อยแค่ไหน แล้วจึงเลือกเนื้อหา รูปแบบหรือวิธีการสอนให้เหมาะกับผู้เรียนนั้นๆ ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับผู้สอน ผู้ป่วย และบริบทของสถานที่เรียนด้วย
How will I teach it? สอนอย่างไรในคลินิก
รูปแบบการสอนในคลินิกมีหลายรูปแบบ ซึ่งการเลือกใช้วิธีการใดขึ้นอยู่กับผู้เรียน ผู้สอน ผู้ป่วย และบริบทของหอผู้ป่วย
- Experiential teaching methods: clinical assignment, written assignment (care plan, case study, journal), Simulation & Game
- Problem solving methods: โดยถามจากสถานการณ์ให้ผู้เรียนฝึกการแก้ปัญหา ฝึกการตัดสินใจจากสถานกาณ์ และฝึกแก้ปัญหาเกี่ยวกับอุบัติการณ์ต่างๆ (Incident)
- Conference: Pre/post conference, clinical conference
- Observation: field trip, nursing round, demonstration
- Multimedia: print, electronic
- Questioning
- Feedback
- Reflection
การสอนในคลินิก Conference
ความหลากหลายของรูปแบบการ Conference เช่น การทำ Pre-Post conference, Bed side teaching, Content conference
- ทำทุกวันที่ขึ้นฝึก ? (ยกเว้น วันปฐมนิเทศ) ควรทำทุกวันหรือไม่ ทำอย่างน้อยกี่ครั้ง/สัปดาห์
อาจไม่ได้ Pre conference ทุกวันขึ้นอยู่กับบริบทและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบนหอผู้ป่วย ซึ่งการ Pre conference ผู้ป่วยทั้งหอผู้ป่วย หรือเฉพาะทีมที่มีผู้เรียนขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่และบริบทของหอผู้ป่วยนั้นๆ แต่ควรจะ Pre conference ทุกวันโดยเฉพาะใน case ที่ผู้เรียนดูแล เพื่อเป็นการประเมินความรู้ ความเข้าใจ และการเตรียมความพร้อมเพื่อการดูแลผู้ป่วย อีกทั้งยังสามารถเพิ่มเติมในประเด็นที่ผู้เรียนอาจจะลืมนึกถึง
- ทำนานแค่ไหน 15, 20, 30, 60, 90 นาที
ไม่ควรเกิน 45 นาที
- ทำโดยใคร พี่หัวหน้าทีม พี่ senior ครู/ preceptor
ควรเป็นหัวหน้าทีมในวันนั้น เนื่องจากได้ดูแลผู้ป่วยและได้ทราบถึงการพยากรณ์โรคอย่างต่อเนื่อง สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้เรียนได้ครอบคลุม แต่หากหัวหน้าทีมไม่สะดวกในการทำ Pre conference อาจารย์ประจำหอผู้ป่วยนั้นๆควรจะ Pre conference ให้ผู้เรียนก่อนเข้าไปให้การดูแลผู้ป่วย
- เนื้อหา ความลึก / scope แค่ไหน และวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ของการ Pre conference เพื่อให้ผู้เรียนได้ให้การพยาบาลอย่างครอบคลุมปัญหาของผู้ป่วย และสามารถป้องกันการเกิดอันตรายต่างๆที่อาจเกิดกับผู้ป่วยได้ อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจในการให้การพยาบาลแก่ผู้ป่วยรายนั้น โดยการช่วยให้ผู้เรียนมองเห็นถึงปัญหาของผู้ป่วย การวางแผนการให้การพยาบาล การประเมินเมื่อให้การพยาบาลเสร็จ และสามารถรายงานผู้ร่วมทีมถึงอาการผิดปกติของผู้ป่วยได้ การ Pre conference ควรเน้นการดูแลผู้ป่วยในแต่ละราย ถ้าหากเป็นรายละเอียดอื่นให้เพิ่มเติมแก่นักเรียนในการทำ Post conference
การทำ Post conference เช่น โรค หรือ case ของผู้เรียน หรือ Feedback care plan เป็นการลงรายละเอียดเพิ่มเติมแก่ผู้เรียน หลังจากผู้เรียนได้ให้การพยาบาลแก่ผู้ป่วยแล้ว อาจเป็นประเด็นที่สงสัย หรือเนื้อหาที่อาจารย์ต้องการสอนผู้เรียนเพิ่มเติม หรือเป็นการให้ข้อมูลย้อนกลับในการปฏิบัติการพยาบาลของผู้เรียน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับปรุงตนเอง
How will I know if the students understand? จะทราบได้อย่างไรว่าผู้เรียนมีความเข้าใจ
มีการประเมินความรู้ ความเข้าใจผู้เรียนเป็นระยะ อาจจะใช้รูปแบบการตั้งคำถามเพื่อให้ผู้เรียนตอบ หรือเป็นเป็นประเด็นคำถามและให้ผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์
*************************************************************
|