Share & Learn: Clinical Teaching ปัญหาและอุปสรรคในการนำไปใช้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรัณยา โฆสิตะมงคล วิทยากร
อาจารย์ประพัฒน์สินี ประไพวงษ์ ผู้ลิขิต
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่อง การจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
หัวข้อ Share & Learn: Clinical Teaching ปัญหาและอุปสรรคในการนำไปใช้
ภาควิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในหัวข้อ Sharing experience of clinical teaching ในวันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2557 โดยมีผศ.ดร.ศรัณยา โฆสิตะมงคล เป็นวิทยากรและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การสอนทางคลีนิคในประเด็นต่างๆ สรุปได้ดังนี้
1. การทำ Small group discussion คือ การจัดผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยๆ ประมาณ 2-3 คนให้ช่วยกันจัดท่าผู้ป่วยที่เป็น hemiparesis หรือผู้ป่วยที่เป็น hemiplegia ในการพลิกตะแคงตัว จากนั้นเป็นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเตียงลงรถ wheelchair ซึ่งจะหัดให้นักศึกษาทำในห้องฝึกปฏิบัติการ LRC ก่อน จากนั้นจึงจะทำในผู้ป่วยจริงบนหอผู้ป่วย
2. Reflection with diary คือ การสะท้อนความคิด ความรู้สึกของนักศึกษาออกมาในรูปแบบของการเขียน โดยการใช้ diary เป็นสื่อกลาง ซึ่งจากการสะท้อนคิดทำให้นักศึกษาพบว่าตนเองบกพร่องตรงส่วนไหน แล้วจะต้องทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร ทำให้เด็กรู้ว่าจะต้องกลับไปศึกษาในส่วนไหนเพิ่มเติมและการใช้ diary ยังทำให้รู้ว่านักศึกษามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการขึ้นฝึกปฏิบัติ เช่น เด็กสะท้อนว่า "กลัว วิตกกังวล เกร็งไปหมดกับการขึ้น ward วันแรก" ซึ่งทำให้อาจารย์ทราบถึงความรู้สึกของนักศึกษา แล้วจะเข้าไป support เด็กได้อย่างไร เป็นต้น นอกจากนี้การใช้ diary ยังทำให้อาจารย์ผู้สอนรู้ว่านักศึกษายังไม่เข้าใจอะไร หรือสงสัยอะไร อาจารย์จะได้อธิบายเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของนักศึกษา ดังนั้นการเขียน diary จึงเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้อาจารย์กับนักศึกษาได้สื่อสารกันมากขึ้น ดังคำที่ว่า "ยิ่งwrite ยิ่งใกล้"
3. Content conference คือ การนำหัวข้อที่น่าสนใจที่จะเรียนรู้นำมาอภิปรายร่วมกัน เช่น การให้นักศึกษาทำเรื่องแผลกดทับ แล้วมานำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ โดยการทำ Content conference นั้นจะทำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อการขึ้นฝึกภาคปฏิบัติ
4. การทำ Journal club โดยการให้นักศึกษาหา article ที่น่าสนใจ และคิดว่ามีประโยชน์ต่อการดูแลผู้ป่วยของตนเองมานำเสนอ ซึ่งการทำ Journal club นั้นยังใหม่กับนักศึกษาแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากมากนักในการหา และการแยกแยะ article ที่มีประโยชน์ ซึ่งในตอนแรกนั้นนักศึกษาจะรู้สึกตื่นเต้น และกังวล ไม่ค่อยกล้าพูด แต่พอได้ทำสักพักนักศึกษาจะเริ่มสนุก และตื่นเต้นในการทำ
5. การทำ Mapping โดยการให้นักศึกษาเขียนโรคของผู้ป่วยที่นักศึกษาได้รับออกมาในรูปของMapping จากการทำพบว่านักศึกษาชอบการทำในรูปแบบนี้ เนื่องจากทำให้รู้ความเป็นมาของโรคมากขึ้น และเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง
6. Questioning โดยการให้นักศึกษาจับคู่กันเป็นพยาบาลและผู้ป่วย ให้จับสลากเลือกโจทย์ จากนั้นผู้ป่วยแสดงบทบาทตามโจทย์ที่ได้รับ แล้วให้คู่ที่เป็นพยาบาลพยายามหาคำตอบว่าผู้ป่วยต้องการอะไร แล้วต้องให้การดูแลผู้ป่วยอย่างไร แล้วสลับบทบาทกันระหว่างพยาบาลและผู้ป่วย ซึ่งจากการทำ Questioning นี้ คือสิ่งที่ต้องเจอในชีวิตจริงของผู้ป่วย ซึ่งจะทำให้เข้าใจผู้ป่วยมากขึ้น และจะต้องดูแลผู้ป่วยอย่างไร
7. Learn from real คือการเรียนรู้จากของจริง เช่นการฝึกประคองผู้ป่วย การฝึกเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เช่น การขึ้นฝึกปฏิบัติที่หอผู้ป่วยเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 11นั้น จะให้นักศึกษาตามนักกายภาพบำบัดไปตอนที่ผู้ป่วยรับการฝึก ซึ่งนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้สอน โดยมีอาจารย์คอยควบคุม หรือกรณีที่ผู้ป่วยมีการตรวจพิเศษอื่นๆ ก็จะให้นักศึกษาได้ตามผู้ป่วยไปดู จากนั้นจึงให้นักศึกษากลับมาเล่าให้อาจารย์และเพื่อนๆฟังว่าผู้ป่วยไปทำการตรวจอะไร และมีขั้นตอนการเตรียม การตรวจอย่างไรบ้าง
8. เสื่อ คือการให้นักศึกษาเขียนเชื่อมโยงกันของพยาธิสรีรวิทยาของโรค การเกิดของโรค การรักษา และการให้การพยาบาลแก่ผู้ป่วย ซึ่งจากการทำเสื่อนั้นจะทำให้นักศึกษาได้เข้าใจโรคที่ผู้ป่วยเป็นได้มากขึ้น มีการคิดเป็นระบบเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น เข้าใจถึงปัจจัย และโยงความสัมพันธ์ในการดูแลผู้ป่วยได้ดีขึ้น
*************************************************************
|